รถมอเตอร์ไซค์โดนน้ำท่วม ต้องทำยังไง? เช็กอะไรบ้าง

หลังสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่อย่าง หาดใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบหนักมาก หลายคนต้องพบกับภาพช้ำใจเมื่อเห็น มอเตอร์ไซค์คู่ใจจมอยู่ใต้น้ำ ไม่ว่าจะเป็นรถใช้งานทั่วไปหรือ Big Bike ราคาเป็นแสน–เป็นล้าน เมื่อน้ำลดแล้วต้องรีบจัดการอย่างถูกต้อง เพราะหากทำพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายแบบถาวรได้ทันที

เพื่อป้องกันความเสียหาย เราสรุปขั้นตอนสำคัญที่สุดที่เจ้าของรถต้องทำหลังน้ำลด พร้อมสิ่งที่ต้องบอกช่างให้ชัดเจนดังนี้

❌ ขั้นตอนแรกที่ห้ามทำเด็ดขาด

🚫 ห้ามสตาร์ทรถ ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ไม่ว่าจะท่วมถึงระดับล้อ เครื่องยนต์ หรือจมน้ำทั้งคัน ห้ามบิดกุญแจหรือกดสตาร์ทเด็ดขาด เพราะเสี่ยงเกิดอาการ Hydrolock คือ น้ำเข้าไปในกระบอกสูบ ทำให้ลูกสูบหมุนไม่ได้ ส่งผลให้ก้านสูบคด–หัก เครื่องพังแบบซ่อมใหญ่ทันที


✅ สิ่งที่ต้องรีบทำทันทีหลังน้ำลด

1. ปลดขั้วแบตเตอรี่ก่อนเป็นอันดับแรก

เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทำให้ ECU, เซนเซอร์ หรือระบบไฟฟ้าทั้งคันเสียหาย

2. ถ่ายภาพรถและรอยท่วมไว้เป็นหลักฐาน

ช่วยประเมินความเสียหาย และใช้ประกอบการเคลมประกันภัย

3. ติดต่อบริษัทประกัน และเรียกรถยก

แจ้งเหตุกับประกันภัย และให้รถยกลากไปอู่ทันที ห้ามเข็นไกล ๆ และห้ามขี่เองเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำย้อนเข้าเครื่องเพิ่ม


จุดที่ต้องตรวจเช็กเมื่อรถมอเตอร์ไซค์โดนน้ำท่วม

ช่างต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียด ดังนี้

1. ระบบเครื่องยนต์ (จุดสำคัญที่สุด)

✔ ถอดหัวเทียนแล้วไล่น้ำออก

เป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำ ช่างจะหมุนเครื่องช้า ๆ เพื่อดันน้ำออกจากกระบอกสูบ หากมีน้ำอยู่แล้วสตาร์ททันที เครื่องพังแน่นอน

✔ ถ่ายของเหลวทั้งหมดออกทันที

  • น้ำมันเครื่อง
  • น้ำมันเกียร์
  • น้ำมันเฟืองท้าย (สำหรับรถมีเฟืองท้าย)

ของเหลวเหล่านี้หากปนกับน้ำจะเปลี่ยนเป็น “สีครีม” และไม่มีคุณสมบัติหล่อลื่นอีกต่อไป ต้องถ่ายทิ้งและเติมใหม่เท่านั้น

2. ระบบเชื้อเพลิงและไอเสีย

✔ ล้างถังน้ำมันให้สะอาด

น้ำและโคลนอาจเข้าไปขังในถัง ต้องถอดออกมาทำความสะอาดก่อนใช้งานอีกครั้ง

✔ ไล่น้ำในท่อไอเสีย

ท่อไอเสียที่จมน้ำอาจขังน้ำไว้ด้านใน ต้องไล่ความชื้นออกทั้งหมดเพื่อป้องกันสนิมและเสียงผิดปกติ

3. ระบบส่งกำลัง–ช่วงล่าง

✔ ทำความสะอาดโซ่หรือสายพาน

สำหรับโซ่ต้องล้างโคลนออก และหล่อลื่นใหม่ หากท่วมจมน้ำนานควรเปลี่ยนทันที
สำหรับสายพาน (Scooter) ต้องเปิดเพื่อไล่น้ำและตรวจสอบความเสียหาย

✔ ตรวจสอบลูกปืนล้อและบูชต่าง ๆ

น้ำและโคลนทำให้จาระบีหายไปจนเกิดสนิมง่ายมาก
บริเวณที่ต้องเช็ก ได้แก่

  • ลูกปืนล้อหน้า/หลัง
  • สวิงอาร์ม
  • จุดหมุนโช้ค
  • แบริ่งต่าง ๆ

4.ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

✔ ถอดปลั๊กทุกจุดเพื่อตรวจความชื้น

ให้ช่างถอดปลั๊กสายไฟและฉีดน้ำยาลดความชื้นอย่างละเอียด

✔ ตรวจสอบเรือนไมล์–ECU

เรือนไมล์ดิจิทัลและกล่อง ECU มีความไวต่อความชื้น ต้องเปิดตรวจอย่างระมัดระวัง


📌 บทสรุป: ส่งอู่ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด

การกู้รถมอเตอร์ไซค์หลังน้ำท่วมต้องใช้ความชำนาญสูง ไม่ควรซ่อมเองโดยไม่มีประสบการณ์ เพราะเสี่ยงทำให้เครื่องพังหนักกว่าเดิม

หากระดับน้ำสูงเกินกว่าพื้นเหยียบ หรือท่วมถึงเครื่องยนต์ แนะนำให้ส่งอู่โดยทันที
การทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อม และทำให้รถกลับมาวิ่งได้เหมือนเดิมเร็วที่สุด